Thursday, April 26, 2007

ร่วมยินดี‘บิ๊กแอ้ด’ยกเลิก ไม่ไป‘ดูไบ’เจอ‘ทักษิณ’ แต่ระวัง-อาจเจอกันที่จีน ปลายพ.ค.นี้ไปกัน‘ทั้งคู่’

http://thaiinsider.info/portal/content/view/3587/57/


เผย “พายัพ” ขอจองเวร-ล้างแค้น คงเพราะคับแค้นใจ แต่แสดงให้เห็นว่า “ทักษิณ” กำลังดิ้นรนอย่างหนัก “เอกยุทธ” ชี้เป็นสิ่งดีที่ “บิ๊กแอ้ด” ยกเลิก

ไม่ไปดูไบ เพราะอาจต้องไปเจอกับ “ทักษิณ” และตกเป็นเป้าให้ถูกโจมตี แต่ให้ระวังปลายเดือนหน้าที่จะไปเยือนจีน อาจเจอทีเด็ดต้องพบแม้วได้ เหตุทักษิณถูกเชิญไปพูดในงาน Asian Forum ช่วงคาบเกี่ยวพอดี

นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ประธานบริหารเครือโอเรียนเต็ล มาร์ท กรุ๊ป ประเทศอังกฤษ เปิดเผยถึงกรณีนายพายัพ ชินวัตร อดีตส.ส.เชียงใหม่ พรรคไทยรักไทย และน้องชายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า จะประกาศจองเวร ขอเอาคืนทั้งโคตรกับกลุ่มคนที่มากลั่นแกล้งว่า จริงๆ แล้วจะโทษนายพายัพคนเดียวคงไม่ได้ เพราะรัฐบาลดำเนินการอย่างไม่มีความเสมอภาค เนื่องจากรัฐมนตรีในรัฐบาลทักษิณหลายคน กลับมีทีท่าว่าจะไม่ได้ถูกดำเนินการ มีแต่เฉพาะคนในตระกูลชินวัตรเท่านั้น ที่ถูกดำเนินการอย่างเอาจริงเอาจัง การที่นายพายัพออกมาให้สัมภาษณ์แสดงให้เห็นว่า เกิดความคับแค้นใจ และฉายภาพว่า พ.ต.ท.ทักษิณกำลังดิ้นรน แต่ทั้งหลายทั้งปวงก็อยู่ที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และรัฐบาล ว่าจะดำเนินการเรื่องปราบปรามการทุจริตอย่างไร

“อย่างที่ผมเคยบอกแล้วว่า การมาตามหาเรื่องคอรัปชั่น เป็นเรื่องที่ยาก เพราะกฎหมายในอดีตได้ถูกแก้จากผิดให้เป็นถูก การจะจัดการจึงทำได้ยากลำบาก แต่สิ่งที่ทำได้คือ การอายัดทรัพย์และตรวจเช็คเรื่องการเสียภาษีย้อนหลัง เอาทรัพย์สินเป็นตัวตั้ง และขอดูใบเสียภาษีของแต่ละคน เพื่อพิสูจน์ว่า มีรายได้สอดรับกันหรือไม่ หากแต่ละคนพิสูจน์ได้ก็จบ ถือว่าแฟร์ แต่ถ้าพิสูจน์ไม่ได้ ก็ยึดทรัพย์เป็นของแผ่นดิน และดำเนินคดี หากดำเนินการเช่นนี้ ก็คงไม่มีใครมาต่อว่าได้ และนายพายัพหรือใครก็คงมาว่าไม่ได้ว่า มีการเลือกปฏิบัติ”นายเอกยุทธกล่าว

สำหรับการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณนั้น อย่างตนเคยบอกแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีสถานะเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปไหนก็มีเครื่องบินส่วนตัว แถมได้รับการต้อนรับจากหลายๆประเทศ ซึ่งสิ่งที่จะระงับการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณได้ก็คือ การอายัดทรัพย์เพื่อมาพิสูจน์ โดยนำประเด็นเรื่องการเสียภาษีมาเป็นตัวตั้ง เพราะต่างประเทศจะกังวลมาก ในเรื่องที่คนโดนกล่าวหาเรื่องการเลี่ยงภาษี ใครที่กล้ารับประกันจะเสี่ยงต่อการถูกกล่าวหาได้ เรามัวแต่ไปคิดว่า เขามีเงิน 7.3 หมื่นล้านในไทย แต่จริงๆ แล้ว เขามีเงินเป็นแสนล้านบาท และอยู่ในต่างประเทศที่สามารถนำมาใช้ได้ทันทีและตลอดเวลา ส่วนที่มีคนปล่อยข่าวว่า ทักษิณจะไปซื้อทีมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เพื่อหากระแสและไม่ให้ตกข่าวเท่านั้น

ส่วนกรณีที่ล่าสุดพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ยกเลิกการเดินทางไปดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่จะมีการจัดประชุมสัมมนาสุดยอดผู้นำธุรกิจของตะวันออกกลางและเอเชีย ระหว่างวันที่ 21-22 พ.ค. ซึ่งมีข่าวว่าอาจจะไปพบกับพ.ต.ท.ทักษิณนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะหากมีภาพออกไปว่า พล.อ.สุรยุทธ์มีการพบปะกับพ.ต.ท.ทักษิณจะทำให้เกิดความเสียหาย และกลายเป็นเป้าให้ถูกโจมตีได้ อย่างไรก็ตาม อยากให้พล.อ.สุรยุทธ์เฝ้าระวังด้วยว่า ในระหว่างที่จะเดินทางไปเยือนประเทศจีน ระหว่างวันที่ 28-30 พ.ค.นี้ ตัวพ.ต.ท.ทักษิณก็จะเดินทางไปเยือนจีนเช่นกัน โดยพ.ต.ท.ทักษิณจะไปร่วมงาน Asian Forum และเขาได้รับเชิญให้ไปกล่าวปาฐกถาด้วย ซึ่งเป็นช่วงคาบเกี่ยวกันพอดีกับที่พล.อ.สุรยุทธ์จะเดินทางไปเยือนจีน ก็ขอให้ระมัดระวังด้วย เพราะอาจมีการจัดฉากให้ไปเจอกันที่นั่นก็ได้

No comments: