http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=175450&NewsType=1&Template=1
วันนี้ (1 ก.ย.) ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งรับฟ้องกรณีที่อัยการสูงสุด ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ดูแลกิจการ เข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 152, 157 และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 กรณีทุจริตการออกกฎหมายแก้ไขค่าสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ดาวเทียมเป็นภาษีสรรพสามิต เอื้อประโยชน์ธุรกิจบริษัท ชินคอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำให้รัฐเสียหายกว่า 66,000 ล้านบาท
ด้าน นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กล่าวว่า ต้องรอดูว่าในวันที่ 15 ต.ค.นี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะแต่งตั้งทนายมาสู้คดีหรือไม่ ถ้าไม่ก็เป็นดุลยพินิจของศาลต่อไป
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้ส่งเรื่องดังกล่าวให้อัยการสูงสุด เพื่อขอให้ดำเนินการส่งฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณในกรณีนี้ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ปัจจุบัน พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พักอยู่ที่อังกฤษ หลังจากเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ศาลฎีกาฯได้ออกหมายจับบุคคลทั้งสอง เนื่องจากทั้งคู่ไม่มารายงานตัวต่อศาลฯ ในคดีจัดซื้อที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษก ตามนัดหมายในวันดังกล่าว ต่อมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ออกประกาศสืบจับบุคคลทั้งสอง เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา
Sunday, August 31, 2008
Friday, August 15, 2008
ผอ.สำนักผังเมือง กทม. เบิกความ มัด"พจมาน" เผยหลังซื้อที่ดินรัชดาแล้ว อนุญาตให้สร้างตึกสูงได้
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1218811535&catid=01
ผอ.สำนักผังเมืองเบิกความเผยหลัง "อ้อ" ซื้อที่ดินแล้ว ให้สร้างตึกสูงได้ ทนาย"แม้ว-อ้อ"ขอศาลจำหน่ายคดีที่ดินรัชดาฯ ศาลไม่อนุญาตและห้ามถอนตัวเนื่องจากเห็นว่ามีประสงค์ให้หยุดคดี เหตุจำเลยเข้ามาอยู่ในอำนาจศาลแล้วจึงมีอำนาจพิจารณาคดีต่อไปได้ "คำนวณ" ยันไม่ถอดใจ
ทนาย"แม้ว-อ้อ"ขอให้ศาลจำหน่ายคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม นายทองหล่อ โฉมงาม ผู้พิพากษาอาวุโสเจ้าของสำนวนพร้อมองค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 คนออกนั่งบัลลังก์ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง ไต่สวนพยานจำเลยครั้งที่ 3 คดีหมายเลขดำที่ อม.1/2550 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานทุจริตซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษกมูลค่า 772 ล้านบาท ตามประมวลกฎหมายอาญา 152, 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พ.ศ.2542 มาตรา 4, 100 และ 122
ก่อนเริ่มการพิจารณาเมื่อเวลา 09.00 น. นายคำนวณ ชโลปถัมป์ และนายอเนก คำชุ่ม ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ได้ยื่นคำร้องต่อศาลว่า จำเลยทั้งสองทำหนังสือแจ้งให้ทนายจำเลยทั้งสองทราบว่าจำเลยทั้งสองไม่ประสงค์จะให้ทนายความที่จำเลยทั้งสองแต่งตั้งดำเนินคดีแทนจำเลยทั้งสองต่อไป ทนายจำเลยทั้งสองจึงขอถอนตัวออกจากการเป็นทนายความจำเลยทั้งสอง และเนื่องจากจำเลยทั้งสองไม่เดินทางมาศาล เพราะได้เดินทางไปพำนักต่างประเทศแล้ว จำเลยทั้งสองจึงยังไม่เข้ามาอยู่ในอำนาจศาล ขอให้ศาลจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
ศาลไม่จำหน่ายคดี-ห้ามทนายถอนตัว
โจทก์ได้รับคำร้องแล้วแถลงว่าขอให้อยู่ในดุลพินิจของศาล ศาลใช้เวลาพิจารณาคำร้องประมาณ 1 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น พร้อมออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่งให้คู่ความทราบเบื้องต้นว่า ศาลไม่อนุญาตให้ทนายจำเลยทั้งสองถอนตัวออกจากการเป็นทนายจำเลยคดีนี้ และไม่อนุญาตให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ เนื่องจากเห็นว่าจำเลยทั้งสองยังอยู่ในอำนาจศาล แต่นายอเนกแถลงโต้แย้งโดยเกรงว่าจะผิดมรรยาททนายความที่จะทำหน้าที่ซักถามโดยที่ตัวความไม่ประสงค์จะให้ดำเนินคดีแทน ทางนายทองหล่อชี้แจงว่า ศาลไม่อนุญาตให้ทนายความถอนตัวแล้ว และมีคำสั่งให้นำพยานที่เตรียมไว้จำนวน 5 ปากเข้าเบิกความทันที
พยานเบิกความชี้หลัง "อ้อ" ซื้อที่ดินแล้ว ให้สร้างตึกสูงได้
สำหรับพยานที่เข้าเบิกความประกอบด้วย นายทร ชาวพิจิตร เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีกระทรวงยุติธรรม เบิกความในประเด็นการนำทรัพย์สินออกขายทอดตลาด นางวิบูลย์เพ็ญ หิตะพันธ์ เจ้าหน้าที่ตรวจเงินแผ่นดิน 9 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าเบิกความในประเด็นการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน และธนาคารแห่งประเทศไทย น.ส.มาลี แม้นมินทร์ รองผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร ขึ้นเบิกความในประเด็นการควบคุมการก่อสร้างอาคารสูงในที่ดินย่านรัชดาภิเษก ที่ก่อนการซื้อขายห้ามสร้างอาคารสูงเกิน 9 ชั้น แต่ภายหลังจำเลยซื้อที่ดินแล้วมีการเปลี่ยนแปลงอนุญาตให้สร้างตึกสูงได้ จากนั้นนางพวงทิพย์ ปรมาพจน์ ผู้อำนวยการธนาคารแห่งประเทศไทย เข้าเบิกความการปรับลดราคาที่ดินพิพาท และการเปลี่ยนแปลงการลงบันทึกในระบบบัญชี ต่อมานางวิไลวรรณ ศศานนท์ เจ้าหน้าที่ สตง. เข้าเบิกความจนเสร็จสิ้นแล้ว
ศาลแจ้งให้คู่ความทราบว่า ศาลจะใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที เพื่อประชุมองค์คณะและมีคำสั่งเกี่ยวกับคำร้องที่ทนายจำเลยยื่นวันนี้ และให้คู่ความรอฟังคำสั่งในรายงานกระบวนการพิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ถอนทนายแล้ว และเมื่อศาลมีคำสั่งให้ดำเนินการไต่สวนพยานที่เตรียมมาวันนี้ให้เสร็จสิ้น ระหว่างที่ไต่สวนศาลเปิดโอกาสให้ทนายความจำเลยซักถามพยาน ซึ่งฝ่ายจำเลยเป็นผู้จัดเตรียมมาตามบัญชีนัดพยาน แต่นายเอนกไม่ใช้โอกาสซักถามพยาน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่เหมือนการไต่สวนพยานจำเลยที่ผ่านมาช่วงก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานจะเดินทางไปที่ประเทศอังกฤษ ศาลจึงเป็นผู้ซักถามพยานแทน ขณะที่อัยการโจทก์กลับใช้โอกาสซักค้านพยานจำเลยอย่างเต็มที่
ชี้จำเลยไม่มายังมีอำนาจทำคดีต่อได้
ต่อมาเวลา 12.00 น. องค์คณะผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำสั่งและรายงานกระบวนการพิจารณา โดยพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้จำเลยทั้งสองได้มารายงานตัวและให้การต่อศาลแล้ว โดยได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างพิจารณา และศาลได้อนุญาตให้พิจารณาลับหลังจำเลยทั้งสองได้ตามที่จำเลยทั้งสองร้องขอ ตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2543 ข้อ 10 จำเลยทั้งสองจึงได้เข้ามาอยู่ในอำนาจของศาลแล้ว แม้ต่อมาจำเลยทั้งสองไม่มาศาล ศาลมีอำนาจที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาคดีต่อไปได้ การที่จำเลยทั้งสองหลบหนีไม่มาศาลย่อมต้องถือว่าจำเลยทั้งสองสละสิทธิในการต่อสู้คดีเอง กรณีจึงไม่มีเหตุที่ศาลจะสั่งจำหน่ายคดี เพื่อให้ได้ตัวจำเลยทั้งสองมาศาลก่อนจึงจะดำเนินกระบวนพิจารณาคดีได้แต่อย่างใด
ระบุชัด"ทนาย"ถอนตัวหวังให้หยุดกระบวนการ
ส่วนที่ทนายจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอถอนตัวออกจากการเป็นทนายจำเลยทั้งสองโดยอ้างว่า จำเลยทั้งสองไม่ประสงค์จะให้ทนายความดังกล่าวดำเนินคดีแทนจำเลยทั้งสองต่อไปนั้น ศาลมีอำนาจหน้าที่ในการไต่สวนแสวงหาพยานหลักฐาน เพื่อค้นหาความจริงตามเนื้อหา แม้จำเลยทั้งสองจะไม่มีทนายความศาลก็สามารถดำเนินการไต่สวนตามพยานหลักฐานไปได้ สำหรับการขอถอนตัวจากการเป็นทนายความตามคำร้องของทนายจำเลยทั้งสองดังกล่าว ก็เห็นได้ว่าเป็นการมุ่งประสงค์เพียงให้ศาลหยุดการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีนี้ไว้ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อเจตนารมณ์ของการจัดตั้งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงไม่อนุญาตให้ทนายจำเลยทั้งสองถอนตัวจากการเป็นทนายความของจำเลยทั้งสอง
ส่วนที่ทนายจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องว่าไม่ติดใจไต่สวนพยานที่เหลือคือ นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กรรมการผู้จัดการบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน), นายวิรัช กุลเพชรประสิทธิ์, น.ส.หนึ่งหทัย วงษ์ทอง และนายวสันต์ เทียนหอม นั้น ศาลเห็นว่าคดีนี้เป็นระบบไต่สวนที่ศาลจะต้องค้นหาความจริงให้ได้ว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้น และจำเลยทั้งสองเป็นผู้กระทำผิดหรือไม่ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจึงเห็นสมควรให้มีการไต่สวนพยานดังกล่าวต่อไป และให้เลื่อนนัดไต่สวนพยานจำเลยทั้งสองไปเป็นในวันที่ 19 สิงหาคม เวลา 09.30 น. ให้ทนายจำเลยทั้งสองติดตามพยาน รวมทั้งนายวราเทพมาเบิกความในวันดังกล่าวด้วย
"ทนายแม้ว" ยันไม่ถอดใจ
ภายหลังนายคำนวณกล่าวยืนยันว่า การยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายความคดีนี้ ไม่ได้เป็นเพราะถอดใจ และไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ลูกความไม่เชื่อในกระบวนการยุติธรรม และเมื่อศาลไม่อนุญาตให้ถอนตัวก็ไม่หนักใจ เพราะในฐานะทนายความก็ยังมีหน้าที่ต้องทำให้ข้อเท็จจริงมาสู่ศาลมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
"การยื่นคำร้องเป็นสิทธิส่วนตัวของลูกความ เมื่อแต่งตั้งใครมาเป็นทนายความแล้วก็มีสิทธิที่จะถอนได้ แต่เมื่อศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตต้องทำตามคำสั่งศาล ซึ่งจะแจ้งเรื่องนี้ให้ลูกความทราบต่อไป" นายคำนวณกล่าว
นายเอนกกล่าวว่า ยังไม่ถอดใจ การดำเนินคดีก็ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริงและเอกสาร ซึ่งฝ่ายจำเลยได้เสนอศาลไปหมดแล้ว ส่วนที่ศาลไม่อนุญาตตามคำร้องของจำเลยในวันนี้ ในฐานะทนายความถือว่าทำหน้าที่ได้เท่าที่จะทำได้และดีที่สุดแล้ว ซึ่งพยานที่จะเตรียมเข้านำสืบในวันที่ 19 สิงหาคม ยังเหลืออีกประมาณ 7 ปาก อาทิ นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท. ส่วนนายวราเทพที่ครั้งแรกจำเลยไม่ติดใจที่จะนำตัวมาไต่สวน เพราะเห็นว่ามีข้อเท็จจริงเพียงพอแล้ว แต่เมื่อศาลมีคำสั่งให้ทนายความติดตามพยานมาเบิกความให้ครบถ้วน ทีมทนายความก็จะประชุมหารือกันอีกครั้ง และจะแถลงให้ศาลทราบในนัดหน้า
"การยืนคำร้องในวันนี้และศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ทนายจำเลยถอนตัว เพราะเห็นว่าเป็นการมุ่งประสงค์ให้ศาลหยุดการพิจารณาคดี ไม่เกี่ยวข้องว่าไม่มีทนายความคนใดทำผิดมรรยาท และไม่มีใครขัดขวางกระบวนการยุติธรรมทั้งสิ้น" นายเอนกกล่าว
ผอ.สำนักผังเมืองเบิกความเผยหลัง "อ้อ" ซื้อที่ดินแล้ว ให้สร้างตึกสูงได้ ทนาย"แม้ว-อ้อ"ขอศาลจำหน่ายคดีที่ดินรัชดาฯ ศาลไม่อนุญาตและห้ามถอนตัวเนื่องจากเห็นว่ามีประสงค์ให้หยุดคดี เหตุจำเลยเข้ามาอยู่ในอำนาจศาลแล้วจึงมีอำนาจพิจารณาคดีต่อไปได้ "คำนวณ" ยันไม่ถอดใจ
ทนาย"แม้ว-อ้อ"ขอให้ศาลจำหน่ายคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม นายทองหล่อ โฉมงาม ผู้พิพากษาอาวุโสเจ้าของสำนวนพร้อมองค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 คนออกนั่งบัลลังก์ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง ไต่สวนพยานจำเลยครั้งที่ 3 คดีหมายเลขดำที่ อม.1/2550 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานทุจริตซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษกมูลค่า 772 ล้านบาท ตามประมวลกฎหมายอาญา 152, 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พ.ศ.2542 มาตรา 4, 100 และ 122
ก่อนเริ่มการพิจารณาเมื่อเวลา 09.00 น. นายคำนวณ ชโลปถัมป์ และนายอเนก คำชุ่ม ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ได้ยื่นคำร้องต่อศาลว่า จำเลยทั้งสองทำหนังสือแจ้งให้ทนายจำเลยทั้งสองทราบว่าจำเลยทั้งสองไม่ประสงค์จะให้ทนายความที่จำเลยทั้งสองแต่งตั้งดำเนินคดีแทนจำเลยทั้งสองต่อไป ทนายจำเลยทั้งสองจึงขอถอนตัวออกจากการเป็นทนายความจำเลยทั้งสอง และเนื่องจากจำเลยทั้งสองไม่เดินทางมาศาล เพราะได้เดินทางไปพำนักต่างประเทศแล้ว จำเลยทั้งสองจึงยังไม่เข้ามาอยู่ในอำนาจศาล ขอให้ศาลจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
ศาลไม่จำหน่ายคดี-ห้ามทนายถอนตัว
โจทก์ได้รับคำร้องแล้วแถลงว่าขอให้อยู่ในดุลพินิจของศาล ศาลใช้เวลาพิจารณาคำร้องประมาณ 1 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น พร้อมออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่งให้คู่ความทราบเบื้องต้นว่า ศาลไม่อนุญาตให้ทนายจำเลยทั้งสองถอนตัวออกจากการเป็นทนายจำเลยคดีนี้ และไม่อนุญาตให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ เนื่องจากเห็นว่าจำเลยทั้งสองยังอยู่ในอำนาจศาล แต่นายอเนกแถลงโต้แย้งโดยเกรงว่าจะผิดมรรยาททนายความที่จะทำหน้าที่ซักถามโดยที่ตัวความไม่ประสงค์จะให้ดำเนินคดีแทน ทางนายทองหล่อชี้แจงว่า ศาลไม่อนุญาตให้ทนายความถอนตัวแล้ว และมีคำสั่งให้นำพยานที่เตรียมไว้จำนวน 5 ปากเข้าเบิกความทันที
พยานเบิกความชี้หลัง "อ้อ" ซื้อที่ดินแล้ว ให้สร้างตึกสูงได้
สำหรับพยานที่เข้าเบิกความประกอบด้วย นายทร ชาวพิจิตร เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีกระทรวงยุติธรรม เบิกความในประเด็นการนำทรัพย์สินออกขายทอดตลาด นางวิบูลย์เพ็ญ หิตะพันธ์ เจ้าหน้าที่ตรวจเงินแผ่นดิน 9 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าเบิกความในประเด็นการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน และธนาคารแห่งประเทศไทย น.ส.มาลี แม้นมินทร์ รองผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร ขึ้นเบิกความในประเด็นการควบคุมการก่อสร้างอาคารสูงในที่ดินย่านรัชดาภิเษก ที่ก่อนการซื้อขายห้ามสร้างอาคารสูงเกิน 9 ชั้น แต่ภายหลังจำเลยซื้อที่ดินแล้วมีการเปลี่ยนแปลงอนุญาตให้สร้างตึกสูงได้ จากนั้นนางพวงทิพย์ ปรมาพจน์ ผู้อำนวยการธนาคารแห่งประเทศไทย เข้าเบิกความการปรับลดราคาที่ดินพิพาท และการเปลี่ยนแปลงการลงบันทึกในระบบบัญชี ต่อมานางวิไลวรรณ ศศานนท์ เจ้าหน้าที่ สตง. เข้าเบิกความจนเสร็จสิ้นแล้ว
ศาลแจ้งให้คู่ความทราบว่า ศาลจะใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที เพื่อประชุมองค์คณะและมีคำสั่งเกี่ยวกับคำร้องที่ทนายจำเลยยื่นวันนี้ และให้คู่ความรอฟังคำสั่งในรายงานกระบวนการพิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ถอนทนายแล้ว และเมื่อศาลมีคำสั่งให้ดำเนินการไต่สวนพยานที่เตรียมมาวันนี้ให้เสร็จสิ้น ระหว่างที่ไต่สวนศาลเปิดโอกาสให้ทนายความจำเลยซักถามพยาน ซึ่งฝ่ายจำเลยเป็นผู้จัดเตรียมมาตามบัญชีนัดพยาน แต่นายเอนกไม่ใช้โอกาสซักถามพยาน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่เหมือนการไต่สวนพยานจำเลยที่ผ่านมาช่วงก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานจะเดินทางไปที่ประเทศอังกฤษ ศาลจึงเป็นผู้ซักถามพยานแทน ขณะที่อัยการโจทก์กลับใช้โอกาสซักค้านพยานจำเลยอย่างเต็มที่
ชี้จำเลยไม่มายังมีอำนาจทำคดีต่อได้
ต่อมาเวลา 12.00 น. องค์คณะผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำสั่งและรายงานกระบวนการพิจารณา โดยพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้จำเลยทั้งสองได้มารายงานตัวและให้การต่อศาลแล้ว โดยได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างพิจารณา และศาลได้อนุญาตให้พิจารณาลับหลังจำเลยทั้งสองได้ตามที่จำเลยทั้งสองร้องขอ ตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2543 ข้อ 10 จำเลยทั้งสองจึงได้เข้ามาอยู่ในอำนาจของศาลแล้ว แม้ต่อมาจำเลยทั้งสองไม่มาศาล ศาลมีอำนาจที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาคดีต่อไปได้ การที่จำเลยทั้งสองหลบหนีไม่มาศาลย่อมต้องถือว่าจำเลยทั้งสองสละสิทธิในการต่อสู้คดีเอง กรณีจึงไม่มีเหตุที่ศาลจะสั่งจำหน่ายคดี เพื่อให้ได้ตัวจำเลยทั้งสองมาศาลก่อนจึงจะดำเนินกระบวนพิจารณาคดีได้แต่อย่างใด
ระบุชัด"ทนาย"ถอนตัวหวังให้หยุดกระบวนการ
ส่วนที่ทนายจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอถอนตัวออกจากการเป็นทนายจำเลยทั้งสองโดยอ้างว่า จำเลยทั้งสองไม่ประสงค์จะให้ทนายความดังกล่าวดำเนินคดีแทนจำเลยทั้งสองต่อไปนั้น ศาลมีอำนาจหน้าที่ในการไต่สวนแสวงหาพยานหลักฐาน เพื่อค้นหาความจริงตามเนื้อหา แม้จำเลยทั้งสองจะไม่มีทนายความศาลก็สามารถดำเนินการไต่สวนตามพยานหลักฐานไปได้ สำหรับการขอถอนตัวจากการเป็นทนายความตามคำร้องของทนายจำเลยทั้งสองดังกล่าว ก็เห็นได้ว่าเป็นการมุ่งประสงค์เพียงให้ศาลหยุดการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีนี้ไว้ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อเจตนารมณ์ของการจัดตั้งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงไม่อนุญาตให้ทนายจำเลยทั้งสองถอนตัวจากการเป็นทนายความของจำเลยทั้งสอง
ส่วนที่ทนายจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องว่าไม่ติดใจไต่สวนพยานที่เหลือคือ นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กรรมการผู้จัดการบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน), นายวิรัช กุลเพชรประสิทธิ์, น.ส.หนึ่งหทัย วงษ์ทอง และนายวสันต์ เทียนหอม นั้น ศาลเห็นว่าคดีนี้เป็นระบบไต่สวนที่ศาลจะต้องค้นหาความจริงให้ได้ว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้น และจำเลยทั้งสองเป็นผู้กระทำผิดหรือไม่ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจึงเห็นสมควรให้มีการไต่สวนพยานดังกล่าวต่อไป และให้เลื่อนนัดไต่สวนพยานจำเลยทั้งสองไปเป็นในวันที่ 19 สิงหาคม เวลา 09.30 น. ให้ทนายจำเลยทั้งสองติดตามพยาน รวมทั้งนายวราเทพมาเบิกความในวันดังกล่าวด้วย
"ทนายแม้ว" ยันไม่ถอดใจ
ภายหลังนายคำนวณกล่าวยืนยันว่า การยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายความคดีนี้ ไม่ได้เป็นเพราะถอดใจ และไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ลูกความไม่เชื่อในกระบวนการยุติธรรม และเมื่อศาลไม่อนุญาตให้ถอนตัวก็ไม่หนักใจ เพราะในฐานะทนายความก็ยังมีหน้าที่ต้องทำให้ข้อเท็จจริงมาสู่ศาลมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
"การยื่นคำร้องเป็นสิทธิส่วนตัวของลูกความ เมื่อแต่งตั้งใครมาเป็นทนายความแล้วก็มีสิทธิที่จะถอนได้ แต่เมื่อศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตต้องทำตามคำสั่งศาล ซึ่งจะแจ้งเรื่องนี้ให้ลูกความทราบต่อไป" นายคำนวณกล่าว
นายเอนกกล่าวว่า ยังไม่ถอดใจ การดำเนินคดีก็ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริงและเอกสาร ซึ่งฝ่ายจำเลยได้เสนอศาลไปหมดแล้ว ส่วนที่ศาลไม่อนุญาตตามคำร้องของจำเลยในวันนี้ ในฐานะทนายความถือว่าทำหน้าที่ได้เท่าที่จะทำได้และดีที่สุดแล้ว ซึ่งพยานที่จะเตรียมเข้านำสืบในวันที่ 19 สิงหาคม ยังเหลืออีกประมาณ 7 ปาก อาทิ นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท. ส่วนนายวราเทพที่ครั้งแรกจำเลยไม่ติดใจที่จะนำตัวมาไต่สวน เพราะเห็นว่ามีข้อเท็จจริงเพียงพอแล้ว แต่เมื่อศาลมีคำสั่งให้ทนายความติดตามพยานมาเบิกความให้ครบถ้วน ทีมทนายความก็จะประชุมหารือกันอีกครั้ง และจะแถลงให้ศาลทราบในนัดหน้า
"การยืนคำร้องในวันนี้และศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ทนายจำเลยถอนตัว เพราะเห็นว่าเป็นการมุ่งประสงค์ให้ศาลหยุดการพิจารณาคดี ไม่เกี่ยวข้องว่าไม่มีทนายความคนใดทำผิดมรรยาท และไม่มีใครขัดขวางกระบวนการยุติธรรมทั้งสิ้น" นายเอนกกล่าว
Thursday, August 14, 2008
สตช.แจกจ่ายหมายจับ"ทักษิณ-พจมาน"
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=173512&NewsType=1&Template=1
วันนี้ (14 ส.ค.) เมื่อเวลา 16.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กองทะเบียยนประวัติอาชญากร ได้ออกประกาศกองทะเบียนประวัติอาชญากร เรื่อง สืบจับผู้กระทำความผิด ฉบับที่ 353/2551 โดยแจกจ่ายไปยังสถานีตำรวจทั่วประเทศ พร้อมแจกให้กับสื่อมวลชนนำเผยแพร่ ซึ่งประกาศฉบับแรกเป็นหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิน ชินวัตร ระบุข้อหา เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินกิจการเป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติมาตรา 4 ,100 และ 122 และฉบับที่สองเป็นหมายจับ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ระบุข้อหา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินกิจการเป็นคู่สัญญา หรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐฯ และเป็นผู้สนับสนุนฯ,มาตรา 4,100 และ 122
ทั้งนี้ในประกาศได้ระบุรูปพรรณสัณฐานของบุคคลทั้งสองอย่างละเอียด พร้อมระบุวันเกิดเหตุคือวันที่ 11 ส.ค.2551 โดย พ.ต.ท.ทักษิณ มีอายุความ 15 ปี วันขาดอายุความคือ 12 สิงหาคม 2566 และ คุณหญิงพจมาน มีอายุความ 10 ปี วันขาดอายุความ 12 สิงหาคม 2561
วันนี้ (14 ส.ค.) เมื่อเวลา 16.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กองทะเบียยนประวัติอาชญากร ได้ออกประกาศกองทะเบียนประวัติอาชญากร เรื่อง สืบจับผู้กระทำความผิด ฉบับที่ 353/2551 โดยแจกจ่ายไปยังสถานีตำรวจทั่วประเทศ พร้อมแจกให้กับสื่อมวลชนนำเผยแพร่ ซึ่งประกาศฉบับแรกเป็นหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิน ชินวัตร ระบุข้อหา เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินกิจการเป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติมาตรา 4 ,100 และ 122 และฉบับที่สองเป็นหมายจับ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ระบุข้อหา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินกิจการเป็นคู่สัญญา หรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐฯ และเป็นผู้สนับสนุนฯ,มาตรา 4,100 และ 122
ทั้งนี้ในประกาศได้ระบุรูปพรรณสัณฐานของบุคคลทั้งสองอย่างละเอียด พร้อมระบุวันเกิดเหตุคือวันที่ 11 ส.ค.2551 โดย พ.ต.ท.ทักษิณ มีอายุความ 15 ปี วันขาดอายุความคือ 12 สิงหาคม 2566 และ คุณหญิงพจมาน มีอายุความ 10 ปี วันขาดอายุความ 12 สิงหาคม 2561
นอกจากนี้ ท้ายประกาศยังระบุขอความร่วมมือ ให้ทุกหน่วยงานช่วยติดตามสืบจับ หากผู้ใดพบเห็น หรือทราบแหล่ง/สถานที่หลบซ่อนของผ้กระทำความผิดข้างต้น ให้รีบแจ้งพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ เพื่อจัดการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ลงประกาศ ณ วันที่ 14 สิงหาคม 2551 และลงชื่อ พันตำรวจเอก โสฬส พินิจศักดิ์ รองผู้บังคับการกองทะเบียนประวัติอาชญากร ปฏิบัติราชการแทน ผู้บังคับการกองทะเบียนประวัติอาชญากร.
Monday, August 11, 2008
ศาลฎีกาฯออกหมายจับ 'ทักษิณ-พจมาน' หนีรายงานตัว
http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=100231
วันนี้ (11 ส.ค.) ว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตัวแทนทีมทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ในคดีทุจริตจัดซื่อที่ย่านดินรัชดาฯ ได้เดินทางเข้ายื่นคำชี้แจงต่อศาลหลังฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการ เมืองหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมานไม่เดินทางมารายงานตัวต่อศาลตามกำหนด
ทั้งนี้ ตัวแทนทีมทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมานใช้เวลาในการยื่นคำชี้แจงต่อศาลประมาณ 5 นาที ก่อนจะเดินทางกลับไปโดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ
ผู้สื่อข่าวรายต่อว่า หลังจากศาลได้รับหนังสือชี้แจงจากตัวแทนนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานทำผิดสัญญาประกันและจงใจไม่เดินทางกลับประเทศไทยโดยขอลี้ภัยถือว่า ผิดสัญญาประกันจึงสั่งปรับเบี้ยประกัน โดยให้ธนาคารนำส่งเงินตามสัญญาประกันจำนวน 13 ล้านบาทต่อศาลภายใน 5 วัน นอกจากนั้น ยังได้มีคำสั่งให้ออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานมีผลทันที
วันนี้ (11 ส.ค.) ว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตัวแทนทีมทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ในคดีทุจริตจัดซื่อที่ย่านดินรัชดาฯ ได้เดินทางเข้ายื่นคำชี้แจงต่อศาลหลังฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการ เมืองหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมานไม่เดินทางมารายงานตัวต่อศาลตามกำหนด
ทั้งนี้ ตัวแทนทีมทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมานใช้เวลาในการยื่นคำชี้แจงต่อศาลประมาณ 5 นาที ก่อนจะเดินทางกลับไปโดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ
ผู้สื่อข่าวรายต่อว่า หลังจากศาลได้รับหนังสือชี้แจงจากตัวแทนนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานทำผิดสัญญาประกันและจงใจไม่เดินทางกลับประเทศไทยโดยขอลี้ภัยถือว่า ผิดสัญญาประกันจึงสั่งปรับเบี้ยประกัน โดยให้ธนาคารนำส่งเงินตามสัญญาประกันจำนวน 13 ล้านบาทต่อศาลภายใน 5 วัน นอกจากนั้น ยังได้มีคำสั่งให้ออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานมีผลทันที
Wednesday, July 30, 2008
ฟ้าผ่า!ตระกูลชินวัตร สั่งจำคุก 'พจมาน' 3 ปี
http://www.thairath.co.th/onlineheadnews.html?id=98932
ที่ศาลอาญา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยบุตรชายและบุตรสาว ได้เดินทางมาให้กำลังใจคุณหญิงพจมาน ภริยา ที่มาฟังคำพิพากษาคดีเลี่ยงภาษีหุ้นบริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)ที่ตกเป็นจำเลยพร้อมกับนายบรรณพจน์ ดามาพงษ์ และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน ท่ามกลางประชาชนนับพันคนที่เดินทางมาให้กำลังใจ
พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน มีสีหน้ายิ้มแย้ม และโบกมือทักทายกับทุกคน ทั้งนี้ ศาลได้ขอความร่วมมือกลุ่มผู้สนับสนุนทุกคนห้ามใช้ถ้อยคำหยาบคาย ยั่วยุ หรือก่อความวุ่นวายเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 500 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ศาลได้กล่าวก่อนการอ่านคำพิพากษาว่า เป็นที่น่าเสียใจว่า สถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันทำให้ประชาชนมีการแบ่งฝ่ายกันอย่างชัดเจน แต่ก็เป็นเรื่องที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต้องแก้ไข แต่เมื่อมีข้อพิพาทขึ้นสู่ศาล ศาลยุติธรรมซึ่งเป็นคนกลาง มีอำนาจชี้ขาด ขอให้ประชาชนวางใจได้ว่าศาลจะให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย แม้แต่คดีนี้ ศาลได้ประชุมปรึกษากันพิจารณาข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานจากสำนวน ไม่มีอคติ ไม่มีกระแสฝ่ายใดมากดดัน ผลของคำพิพากษาจะออกมาเป็นอย่างไร หากคู่ความไม่พอใจ สามารถใช้สิทธิ์อุทธรณ์หรือฎีกาได้ตามกฎหมาย
โดยคุณหญิงพจมาน เป็นจำเลยที่ 1 นายบรรณพจน์ จำเลยที่ 2 และนางกาญจนาภา จำเลยที่ 3 ซึ่งศาลมีคำพิพากษาว่า จำเลยทั้ง 3 มีความผิดตามประมวลรัษฎากร มาตรา 37(2) และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และจำเลยที่ 1 และที่ 2 มีความผิดตามประมวลรัษฎากร มาตรา 37(1) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำของจำเลยที่ 1 และที่ 2 มีความผิดหลายกรรมต่างกรรม ให้เรียงกระทงลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 57 ฐานร่วมกันโดยความเท็จ โดยฉ้อโกง หรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน หลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร จำคุกจำเลยทั้ง 3 คนละ 2 ปี ฐานโดยรู้อยู่แล้วหนีโดยจงใจ ร่วมกันแจ้งข้อความเท็จ หรือให้ถ้อยคำเท็จ หรือตอบคำถามด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ หรือนำพยานหลักฐานเท็จมาแสดง เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร จำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2 คนละ 1 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2 คนละ 3 ปี
ที่ศาลอาญา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยบุตรชายและบุตรสาว ได้เดินทางมาให้กำลังใจคุณหญิงพจมาน ภริยา ที่มาฟังคำพิพากษาคดีเลี่ยงภาษีหุ้นบริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)ที่ตกเป็นจำเลยพร้อมกับนายบรรณพจน์ ดามาพงษ์ และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน ท่ามกลางประชาชนนับพันคนที่เดินทางมาให้กำลังใจ
พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน มีสีหน้ายิ้มแย้ม และโบกมือทักทายกับทุกคน ทั้งนี้ ศาลได้ขอความร่วมมือกลุ่มผู้สนับสนุนทุกคนห้ามใช้ถ้อยคำหยาบคาย ยั่วยุ หรือก่อความวุ่นวายเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 500 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ศาลได้กล่าวก่อนการอ่านคำพิพากษาว่า เป็นที่น่าเสียใจว่า สถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันทำให้ประชาชนมีการแบ่งฝ่ายกันอย่างชัดเจน แต่ก็เป็นเรื่องที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต้องแก้ไข แต่เมื่อมีข้อพิพาทขึ้นสู่ศาล ศาลยุติธรรมซึ่งเป็นคนกลาง มีอำนาจชี้ขาด ขอให้ประชาชนวางใจได้ว่าศาลจะให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย แม้แต่คดีนี้ ศาลได้ประชุมปรึกษากันพิจารณาข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานจากสำนวน ไม่มีอคติ ไม่มีกระแสฝ่ายใดมากดดัน ผลของคำพิพากษาจะออกมาเป็นอย่างไร หากคู่ความไม่พอใจ สามารถใช้สิทธิ์อุทธรณ์หรือฎีกาได้ตามกฎหมาย
โดยคุณหญิงพจมาน เป็นจำเลยที่ 1 นายบรรณพจน์ จำเลยที่ 2 และนางกาญจนาภา จำเลยที่ 3 ซึ่งศาลมีคำพิพากษาว่า จำเลยทั้ง 3 มีความผิดตามประมวลรัษฎากร มาตรา 37(2) และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และจำเลยที่ 1 และที่ 2 มีความผิดตามประมวลรัษฎากร มาตรา 37(1) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำของจำเลยที่ 1 และที่ 2 มีความผิดหลายกรรมต่างกรรม ให้เรียงกระทงลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 57 ฐานร่วมกันโดยความเท็จ โดยฉ้อโกง หรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน หลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร จำคุกจำเลยทั้ง 3 คนละ 2 ปี ฐานโดยรู้อยู่แล้วหนีโดยจงใจ ร่วมกันแจ้งข้อความเท็จ หรือให้ถ้อยคำเท็จ หรือตอบคำถามด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ หรือนำพยานหลักฐานเท็จมาแสดง เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร จำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2 คนละ 1 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2 คนละ 3 ปี
Wednesday, June 25, 2008
BBCตีข่าวทนายทักษิณซุกเงินศาล2ล.บอกรัฐเคยพยายามแก้ รธน. ช่วย
http://www.innnews.co.th/around.php?nid=118322
บีบีซี รายงานข่าว 3 ทนายความทักษิณ ถูกตัดสินจำคุก 6 เดือน ข้อหาพยายามติดสินบนผู้พิพากษาศาล แถมระบุด้วยว่า รัฐบาลเคยพยายามแก้รัฐธรรมนูญช่วยอดีตนายกรัฐมนตรีรายนี้ แต่ถูกกดดันให้ถอยกลับเสียก่อน
สำนักข่าวบีบีซี สื่อชื่อดังของอังกฤษ เผยข่าว ทนายความทักษิณ ถูกศาลจำคุก 6 เดือน ข้อหาพยายามตัดสินบน พร้อมระบุว่ารัฐบาลไทย พยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อช่วยเหลืออดีตนายหรัฐมนตรีของไทย
บีบีซี ระบุว่า เงินสินบนถูกส่งไปยังศาล โดยซุกซ่อนในถุงขนม หลังจาก เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ทนายความ 2 คนของทักษิณเดินทางไปยังศาลฎีกา เพื่อรับฟังการพิจารณาคดีของทักษิณและภริยา และได้มอบถุงขนมให้กับเจ้าหน้าที่ศาล พร้อมบอกกับพวกเขาว่าเอาไปแบ่งๆ กัน และภายในถุงแทนที่จะเป็นขนม แต่พบว่า มันห่อเงินสดจำนวนราว 60,000 ดอลลาร์ ( 2 ล้านบาท
สื่อชื่อดังยังได้เผยว่า ความสงสัยทั้งหมดได้พุ่งตรงไปยังทนายความของทักษิณในทันที แต่พวกเขาอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและบอกว่า เรื่องนี้มีเจตนาดิสเครดิต อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นอกจากนี้ สำนักข่าวชื่อดัง ยังเชื่อว่า พ.ต.ท. ทักษิณ มีความกังวลจากข้อกล่าวหาซื้อที่ดินผิดกฎหมายโดยภรรยาของเขา ระหว่างที่ดำรงตำแหน่ง เพราะถ้าพบว่า มีความผิดทั้งสองคนอาจต้องติดคุกและโอกาสกลับสู่การเมืองในภายภาคหน้าแทบ จะจบสิ้นลง
บีบีซี รายงานต่อว่า รัฐบาล ซึ่งนำโดยพันธมิตรของทักษิณ พยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ โดยมีความหวังเพื่อจะสร้างโอกาสให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นผิดจากคดีความต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวชินวัตร
บีบีซี รายงานข่าว 3 ทนายความทักษิณ ถูกตัดสินจำคุก 6 เดือน ข้อหาพยายามติดสินบนผู้พิพากษาศาล แถมระบุด้วยว่า รัฐบาลเคยพยายามแก้รัฐธรรมนูญช่วยอดีตนายกรัฐมนตรีรายนี้ แต่ถูกกดดันให้ถอยกลับเสียก่อน
สำนักข่าวบีบีซี สื่อชื่อดังของอังกฤษ เผยข่าว ทนายความทักษิณ ถูกศาลจำคุก 6 เดือน ข้อหาพยายามตัดสินบน พร้อมระบุว่ารัฐบาลไทย พยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อช่วยเหลืออดีตนายหรัฐมนตรีของไทย
บีบีซี ระบุว่า เงินสินบนถูกส่งไปยังศาล โดยซุกซ่อนในถุงขนม หลังจาก เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ทนายความ 2 คนของทักษิณเดินทางไปยังศาลฎีกา เพื่อรับฟังการพิจารณาคดีของทักษิณและภริยา และได้มอบถุงขนมให้กับเจ้าหน้าที่ศาล พร้อมบอกกับพวกเขาว่าเอาไปแบ่งๆ กัน และภายในถุงแทนที่จะเป็นขนม แต่พบว่า มันห่อเงินสดจำนวนราว 60,000 ดอลลาร์ ( 2 ล้านบาท
สื่อชื่อดังยังได้เผยว่า ความสงสัยทั้งหมดได้พุ่งตรงไปยังทนายความของทักษิณในทันที แต่พวกเขาอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและบอกว่า เรื่องนี้มีเจตนาดิสเครดิต อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นอกจากนี้ สำนักข่าวชื่อดัง ยังเชื่อว่า พ.ต.ท. ทักษิณ มีความกังวลจากข้อกล่าวหาซื้อที่ดินผิดกฎหมายโดยภรรยาของเขา ระหว่างที่ดำรงตำแหน่ง เพราะถ้าพบว่า มีความผิดทั้งสองคนอาจต้องติดคุกและโอกาสกลับสู่การเมืองในภายภาคหน้าแทบ จะจบสิ้นลง
บีบีซี รายงานต่อว่า รัฐบาล ซึ่งนำโดยพันธมิตรของทักษิณ พยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ โดยมีความหวังเพื่อจะสร้างโอกาสให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นผิดจากคดีความต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวชินวัตร
Wednesday, June 18, 2008
อังกฤษเรียก 'ทักษิณ' สอบด่วน สะพัด! ประธานฟีฟ่า-ยูฟ่าฉุนจัดที่ฉวยครอบครองสโมสรบอลผู้ดี
http://www.matichon.co.th/news_title.php?id=2292
วันที่ 18 มิถุนายน 2551
แฟนบอลเรือใบสีฟ้า-หงส์แดง ฮือ! ตะเพิด 'ทักษิณ-2 เจ้าของลิเวอร์พูล' บริหารงานห่วย รัฐสภาอังกฤษเชิญ 3 เจ้าของต่างชาติสอบหาข้อเท็จจริง โดยเฉพาะปธ.แมนฯซิตี้ หลังสั่งปลดกุนซือ 'สเวน' ออกแบบไร้เหตุผล สะพัดประธานยูฟ่าและฟีฟ่าไม่พอใจที่เศรษฐีต่างชาติมากว้านซื้อสโมรสรฟุตบอลผู้ดี
รายงานข่าวจากกรุงลอนดอนเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา ระบุว่า รัฐสภาของอังกฤษ ได้เชิญตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เจ้าของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ ชาวไทย และทอม ฮิคส์ กับจอร์จ ยิลเล็ตต์ 2 เจ้าของร่วมของสโมสรลิเวอร์พูล ชาวอเมริกันไปสอบสวน หลังจากทั้ง 3 คน สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนบอลในอังกฤษในฐานะเจ้าของสโมสรชาวต่างชาติ โดยร้องเรียนว่า บริหารงานอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งแฟนบอลของทั้ง 2 สโมสร ได้แสดงท่าทีต่อต้าน 3 เจ้าของชาวต่างชาติอย่างชัดเจนในขณะนี้ โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนบอลแมนซิตี้ในอังกฤษเป็นอย่างมาก ภายหลังการปลด สเวน โกรัน อีริคส์สัน ออกจากตำแหน่งอย่างไม่มีเหตุผล
รายงานระบุว่า ขณะนี้สมาชิกรัฐสภาอังกฤษ 13 คน กำลังสอบสวนปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการบริหารสโมสรฟุตบอลอังกฤษอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะต่อกระแสวิตกของแฟนบอลเรื่องการที่ชาวต่างชาติเข้ามาเป็นเจ้าของสโมสรอังกฤษและมีอิทธิพลเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่รายงานบัญชีเปิดเผยเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ระบุว่า บรรดามหาเศรษฐีชาวต่างชาติที่เป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเมื่อปีที่แล้ว ได้บริหารสโมสรดังมีหนี้สินรวม 33 ล้านปอนด์ นับตั้งแต่เดือนส.ค.ปี 2007 โดยสมาชิกรัฐสภาอังกฤษยังได้เรียกนายริค แพร์รี่ อดีตผู้บริหารระดับสูงของสโมสรลิเวอร์พูลที่ต้องลาออกตามความต้องการของนายทอม ฮิลค์ ประธานสโมสรชาวอเมริกัน มาให้ข้อมูลแก่สมาชิกรัฐสภาด้วย
แต่ในรายของพ.ต.ท. ทักษิณนั้นสร้างความไม่พอใจให้กับสาวกเรือใบเป็นอย่างมากกับการตะเพิดสเวนโกรัน อีริคส์สันออกจากตำแหน่งอย่างไม่เป็นธรรมจึงทำให้รัฐสถาอังกฤษต้องเชิญมาสอบสวนถึงปัญหาดังกล่าว ขณะที่เซ็ปป์ แบล็ตเตอร์ประธานฟีฟ่า และมิเชล พลาตินี่ประธานยูฟ่าต่างก็แสดงความไม่พอใจที่เศรษฐีต่างชาติกว้านซื้อสโมสรฟุตบอลของอังกฤษไปเป็นกรรมสิทธิ์
สำหรับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประธานสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้น ได้บริหารสโมสรดังแห่งนี้เป็นเวลา 1 ปี แต่ต้องเผชิญกระแสวิพากษ์โจมตีต่อกรณีปลดสเวน โกรัน อีริกส์สัน เมื่อช่วงต้นเดือน จากการกระทำที่เขายอมรับว่าเป็นเรื่องโหดร้าย จากการปลดโค้ชชาวสวีเดนผู้นี้จากตำแหน่ง ทั้งที่เพิ่งบริหารทีมได้เพียงปีเดียว และสามารถนำทีมจบฤดูกาลด้วยอันดับที่เก้า และคาดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเคยถูกกล่าวหาในประเด็นละเมิดสิทธิมนุษย์ชนในช่วงดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯของไทย จะถูกเรียกตัวมาให้สอบถามเพื่อตรวจสอบว่าได้บริหารสโมสรแมนฯซิตี้อย่างสมบูรณ์และเหมาะสมหรือไม่
รายงานระบุว่า นอกเหนือจากนายทอม ฮิลค์ นายจอร์จ ยิลเลตต์ และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แล้ว สมาชิกรัฐสภาอังกฤษชุดดังกล่าว ยังมีแผนจะเชิญนายโฮเซ่ มูรินโญ่ มาให้ข้อมูลเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนายโรมัน อับราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย เจ้าของทีมเชลซี ด้วย หลังจากมูรินโญ่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ซึ่งปัจจุบันนายโรมันได้ทำสัญญาจ้างนายหลุยส์ ฟิลิปเป้ สโคลารี่ มาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ แทนนายอัฟราม แกรนต์ ที่ถูกมอบหมายให้คุมทีมเชลซีหลังจากมูรินโญ่ถูกปลด นอกจากนี้
อย่างไรก็ตาม สมาชิกรัฐสภาอังกฤษยังมีแผนเชิญประธานฟีฟ่าและประธานยูฟ่า มาให้ข้อมูลในเรื่องดังกล่าวด้วย
วันที่ 18 มิถุนายน 2551
แฟนบอลเรือใบสีฟ้า-หงส์แดง ฮือ! ตะเพิด 'ทักษิณ-2 เจ้าของลิเวอร์พูล' บริหารงานห่วย รัฐสภาอังกฤษเชิญ 3 เจ้าของต่างชาติสอบหาข้อเท็จจริง โดยเฉพาะปธ.แมนฯซิตี้ หลังสั่งปลดกุนซือ 'สเวน' ออกแบบไร้เหตุผล สะพัดประธานยูฟ่าและฟีฟ่าไม่พอใจที่เศรษฐีต่างชาติมากว้านซื้อสโมรสรฟุตบอลผู้ดี
รายงานข่าวจากกรุงลอนดอนเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา ระบุว่า รัฐสภาของอังกฤษ ได้เชิญตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เจ้าของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ ชาวไทย และทอม ฮิคส์ กับจอร์จ ยิลเล็ตต์ 2 เจ้าของร่วมของสโมสรลิเวอร์พูล ชาวอเมริกันไปสอบสวน หลังจากทั้ง 3 คน สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนบอลในอังกฤษในฐานะเจ้าของสโมสรชาวต่างชาติ โดยร้องเรียนว่า บริหารงานอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งแฟนบอลของทั้ง 2 สโมสร ได้แสดงท่าทีต่อต้าน 3 เจ้าของชาวต่างชาติอย่างชัดเจนในขณะนี้ โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนบอลแมนซิตี้ในอังกฤษเป็นอย่างมาก ภายหลังการปลด สเวน โกรัน อีริคส์สัน ออกจากตำแหน่งอย่างไม่มีเหตุผล
รายงานระบุว่า ขณะนี้สมาชิกรัฐสภาอังกฤษ 13 คน กำลังสอบสวนปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการบริหารสโมสรฟุตบอลอังกฤษอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะต่อกระแสวิตกของแฟนบอลเรื่องการที่ชาวต่างชาติเข้ามาเป็นเจ้าของสโมสรอังกฤษและมีอิทธิพลเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่รายงานบัญชีเปิดเผยเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ระบุว่า บรรดามหาเศรษฐีชาวต่างชาติที่เป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเมื่อปีที่แล้ว ได้บริหารสโมสรดังมีหนี้สินรวม 33 ล้านปอนด์ นับตั้งแต่เดือนส.ค.ปี 2007 โดยสมาชิกรัฐสภาอังกฤษยังได้เรียกนายริค แพร์รี่ อดีตผู้บริหารระดับสูงของสโมสรลิเวอร์พูลที่ต้องลาออกตามความต้องการของนายทอม ฮิลค์ ประธานสโมสรชาวอเมริกัน มาให้ข้อมูลแก่สมาชิกรัฐสภาด้วย
แต่ในรายของพ.ต.ท. ทักษิณนั้นสร้างความไม่พอใจให้กับสาวกเรือใบเป็นอย่างมากกับการตะเพิดสเวนโกรัน อีริคส์สันออกจากตำแหน่งอย่างไม่เป็นธรรมจึงทำให้รัฐสถาอังกฤษต้องเชิญมาสอบสวนถึงปัญหาดังกล่าว ขณะที่เซ็ปป์ แบล็ตเตอร์ประธานฟีฟ่า และมิเชล พลาตินี่ประธานยูฟ่าต่างก็แสดงความไม่พอใจที่เศรษฐีต่างชาติกว้านซื้อสโมสรฟุตบอลของอังกฤษไปเป็นกรรมสิทธิ์
สำหรับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประธานสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้น ได้บริหารสโมสรดังแห่งนี้เป็นเวลา 1 ปี แต่ต้องเผชิญกระแสวิพากษ์โจมตีต่อกรณีปลดสเวน โกรัน อีริกส์สัน เมื่อช่วงต้นเดือน จากการกระทำที่เขายอมรับว่าเป็นเรื่องโหดร้าย จากการปลดโค้ชชาวสวีเดนผู้นี้จากตำแหน่ง ทั้งที่เพิ่งบริหารทีมได้เพียงปีเดียว และสามารถนำทีมจบฤดูกาลด้วยอันดับที่เก้า และคาดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเคยถูกกล่าวหาในประเด็นละเมิดสิทธิมนุษย์ชนในช่วงดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯของไทย จะถูกเรียกตัวมาให้สอบถามเพื่อตรวจสอบว่าได้บริหารสโมสรแมนฯซิตี้อย่างสมบูรณ์และเหมาะสมหรือไม่
รายงานระบุว่า นอกเหนือจากนายทอม ฮิลค์ นายจอร์จ ยิลเลตต์ และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แล้ว สมาชิกรัฐสภาอังกฤษชุดดังกล่าว ยังมีแผนจะเชิญนายโฮเซ่ มูรินโญ่ มาให้ข้อมูลเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนายโรมัน อับราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย เจ้าของทีมเชลซี ด้วย หลังจากมูรินโญ่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ซึ่งปัจจุบันนายโรมันได้ทำสัญญาจ้างนายหลุยส์ ฟิลิปเป้ สโคลารี่ มาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ แทนนายอัฟราม แกรนต์ ที่ถูกมอบหมายให้คุมทีมเชลซีหลังจากมูรินโญ่ถูกปลด นอกจากนี้
อย่างไรก็ตาม สมาชิกรัฐสภาอังกฤษยังมีแผนเชิญประธานฟีฟ่าและประธานยูฟ่า มาให้ข้อมูลในเรื่องดังกล่าวด้วย
Subscribe to:
Posts (Atom)