Sunday, August 31, 2008

ศาลฎีกาฯรับฟ้อง 'ทักษิณ' แปลงภาษีสรรพสามิต

http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=175450&NewsType=1&Template=1

วันนี้ (1 ก.ย.) ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งรับฟ้องกรณีที่อัยการสูงสุด ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ดูแลกิจการ เข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 152, 157 และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 กรณีทุจริตการออกกฎหมายแก้ไขค่าสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ดาวเทียมเป็นภาษีสรรพสามิต เอื้อประโยชน์ธุรกิจบริษัท ชินคอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำให้รัฐเสียหายกว่า 66,000 ล้านบาท

ด้าน นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กล่าวว่า ต้องรอดูว่าในวันที่ 15 ต.ค.นี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะแต่งตั้งทนายมาสู้คดีหรือไม่ ถ้าไม่ก็เป็นดุลยพินิจของศาลต่อไป

ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้ส่งเรื่องดังกล่าวให้อัยการสูงสุด เพื่อขอให้ดำเนินการส่งฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณในกรณีนี้ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ปัจจุบัน พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พักอยู่ที่อังกฤษ หลังจากเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ศาลฎีกาฯได้ออกหมายจับบุคคลทั้งสอง เนื่องจากทั้งคู่ไม่มารายงานตัวต่อศาลฯ ในคดีจัดซื้อที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษก ตามนัดหมายในวันดังกล่าว ต่อมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ออกประกาศสืบจับบุคคลทั้งสอง เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา

Friday, August 15, 2008

ผอ.สำนักผังเมือง กทม. เบิกความ มัด"พจมาน" เผยหลังซื้อที่ดินรัชดาแล้ว อนุญาตให้สร้างตึกสูงได้

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1218811535&catid=01

ผอ.สำนักผังเมืองเบิกความเผยหลัง "อ้อ" ซื้อที่ดินแล้ว ให้สร้างตึกสูงได้ ทนาย"แม้ว-อ้อ"ขอศาลจำหน่ายคดีที่ดินรัชดาฯ ศาลไม่อนุญาตและห้ามถอนตัวเนื่องจากเห็นว่ามีประสงค์ให้หยุดคดี เหตุจำเลยเข้ามาอยู่ในอำนาจศาลแล้วจึงมีอำนาจพิจารณาคดีต่อไปได้ "คำนวณ" ยันไม่ถอดใจ

ทนาย"แม้ว-อ้อ"ขอให้ศาลจำหน่ายคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม นายทองหล่อ โฉมงาม ผู้พิพากษาอาวุโสเจ้าของสำนวนพร้อมองค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 คนออกนั่งบัลลังก์ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง ไต่สวนพยานจำเลยครั้งที่ 3 คดีหมายเลขดำที่ อม.1/2550 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานทุจริตซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษกมูลค่า 772 ล้านบาท ตามประมวลกฎหมายอาญา 152, 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พ.ศ.2542 มาตรา 4, 100 และ 122

ก่อนเริ่มการพิจารณาเมื่อเวลา 09.00 น. นายคำนวณ ชโลปถัมป์ และนายอเนก คำชุ่ม ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ได้ยื่นคำร้องต่อศาลว่า จำเลยทั้งสองทำหนังสือแจ้งให้ทนายจำเลยทั้งสองทราบว่าจำเลยทั้งสองไม่ประสงค์จะให้ทนายความที่จำเลยทั้งสองแต่งตั้งดำเนินคดีแทนจำเลยทั้งสองต่อไป ทนายจำเลยทั้งสองจึงขอถอนตัวออกจากการเป็นทนายความจำเลยทั้งสอง และเนื่องจากจำเลยทั้งสองไม่เดินทางมาศาล เพราะได้เดินทางไปพำนักต่างประเทศแล้ว จำเลยทั้งสองจึงยังไม่เข้ามาอยู่ในอำนาจศาล ขอให้ศาลจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ

ศาลไม่จำหน่ายคดี-ห้ามทนายถอนตัว

โจทก์ได้รับคำร้องแล้วแถลงว่าขอให้อยู่ในดุลพินิจของศาล ศาลใช้เวลาพิจารณาคำร้องประมาณ 1 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น พร้อมออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่งให้คู่ความทราบเบื้องต้นว่า ศาลไม่อนุญาตให้ทนายจำเลยทั้งสองถอนตัวออกจากการเป็นทนายจำเลยคดีนี้ และไม่อนุญาตให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ เนื่องจากเห็นว่าจำเลยทั้งสองยังอยู่ในอำนาจศาล แต่นายอเนกแถลงโต้แย้งโดยเกรงว่าจะผิดมรรยาททนายความที่จะทำหน้าที่ซักถามโดยที่ตัวความไม่ประสงค์จะให้ดำเนินคดีแทน ทางนายทองหล่อชี้แจงว่า ศาลไม่อนุญาตให้ทนายความถอนตัวแล้ว และมีคำสั่งให้นำพยานที่เตรียมไว้จำนวน 5 ปากเข้าเบิกความทันที

พยานเบิกความชี้หลัง "อ้อ" ซื้อที่ดินแล้ว ให้สร้างตึกสูงได้

สำหรับพยานที่เข้าเบิกความประกอบด้วย นายทร ชาวพิจิตร เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีกระทรวงยุติธรรม เบิกความในประเด็นการนำทรัพย์สินออกขายทอดตลาด นางวิบูลย์เพ็ญ หิตะพันธ์ เจ้าหน้าที่ตรวจเงินแผ่นดิน 9 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าเบิกความในประเด็นการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน และธนาคารแห่งประเทศไทย น.ส.มาลี แม้นมินทร์ รองผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร ขึ้นเบิกความในประเด็นการควบคุมการก่อสร้างอาคารสูงในที่ดินย่านรัชดาภิเษก ที่ก่อนการซื้อขายห้ามสร้างอาคารสูงเกิน 9 ชั้น แต่ภายหลังจำเลยซื้อที่ดินแล้วมีการเปลี่ยนแปลงอนุญาตให้สร้างตึกสูงได้ จากนั้นนางพวงทิพย์ ปรมาพจน์ ผู้อำนวยการธนาคารแห่งประเทศไทย เข้าเบิกความการปรับลดราคาที่ดินพิพาท และการเปลี่ยนแปลงการลงบันทึกในระบบบัญชี ต่อมานางวิไลวรรณ ศศานนท์ เจ้าหน้าที่ สตง. เข้าเบิกความจนเสร็จสิ้นแล้ว

ศาลแจ้งให้คู่ความทราบว่า ศาลจะใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที เพื่อประชุมองค์คณะและมีคำสั่งเกี่ยวกับคำร้องที่ทนายจำเลยยื่นวันนี้ และให้คู่ความรอฟังคำสั่งในรายงานกระบวนการพิจารณา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ถอนทนายแล้ว และเมื่อศาลมีคำสั่งให้ดำเนินการไต่สวนพยานที่เตรียมมาวันนี้ให้เสร็จสิ้น ระหว่างที่ไต่สวนศาลเปิดโอกาสให้ทนายความจำเลยซักถามพยาน ซึ่งฝ่ายจำเลยเป็นผู้จัดเตรียมมาตามบัญชีนัดพยาน แต่นายเอนกไม่ใช้โอกาสซักถามพยาน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่เหมือนการไต่สวนพยานจำเลยที่ผ่านมาช่วงก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานจะเดินทางไปที่ประเทศอังกฤษ ศาลจึงเป็นผู้ซักถามพยานแทน ขณะที่อัยการโจทก์กลับใช้โอกาสซักค้านพยานจำเลยอย่างเต็มที่

ชี้จำเลยไม่มายังมีอำนาจทำคดีต่อได้

ต่อมาเวลา 12.00 น. องค์คณะผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำสั่งและรายงานกระบวนการพิจารณา โดยพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้จำเลยทั้งสองได้มารายงานตัวและให้การต่อศาลแล้ว โดยได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างพิจารณา และศาลได้อนุญาตให้พิจารณาลับหลังจำเลยทั้งสองได้ตามที่จำเลยทั้งสองร้องขอ ตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2543 ข้อ 10 จำเลยทั้งสองจึงได้เข้ามาอยู่ในอำนาจของศาลแล้ว แม้ต่อมาจำเลยทั้งสองไม่มาศาล ศาลมีอำนาจที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาคดีต่อไปได้ การที่จำเลยทั้งสองหลบหนีไม่มาศาลย่อมต้องถือว่าจำเลยทั้งสองสละสิทธิในการต่อสู้คดีเอง กรณีจึงไม่มีเหตุที่ศาลจะสั่งจำหน่ายคดี เพื่อให้ได้ตัวจำเลยทั้งสองมาศาลก่อนจึงจะดำเนินกระบวนพิจารณาคดีได้แต่อย่างใด

ระบุชัด"ทนาย"ถอนตัวหวังให้หยุดกระบวนการ

ส่วนที่ทนายจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอถอนตัวออกจากการเป็นทนายจำเลยทั้งสองโดยอ้างว่า จำเลยทั้งสองไม่ประสงค์จะให้ทนายความดังกล่าวดำเนินคดีแทนจำเลยทั้งสองต่อไปนั้น ศาลมีอำนาจหน้าที่ในการไต่สวนแสวงหาพยานหลักฐาน เพื่อค้นหาความจริงตามเนื้อหา แม้จำเลยทั้งสองจะไม่มีทนายความศาลก็สามารถดำเนินการไต่สวนตามพยานหลักฐานไปได้ สำหรับการขอถอนตัวจากการเป็นทนายความตามคำร้องของทนายจำเลยทั้งสองดังกล่าว ก็เห็นได้ว่าเป็นการมุ่งประสงค์เพียงให้ศาลหยุดการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีนี้ไว้ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อเจตนารมณ์ของการจัดตั้งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงไม่อนุญาตให้ทนายจำเลยทั้งสองถอนตัวจากการเป็นทนายความของจำเลยทั้งสอง

ส่วนที่ทนายจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องว่าไม่ติดใจไต่สวนพยานที่เหลือคือ นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กรรมการผู้จัดการบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน), นายวิรัช กุลเพชรประสิทธิ์, น.ส.หนึ่งหทัย วงษ์ทอง และนายวสันต์ เทียนหอม นั้น ศาลเห็นว่าคดีนี้เป็นระบบไต่สวนที่ศาลจะต้องค้นหาความจริงให้ได้ว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้น และจำเลยทั้งสองเป็นผู้กระทำผิดหรือไม่ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจึงเห็นสมควรให้มีการไต่สวนพยานดังกล่าวต่อไป และให้เลื่อนนัดไต่สวนพยานจำเลยทั้งสองไปเป็นในวันที่ 19 สิงหาคม เวลา 09.30 น. ให้ทนายจำเลยทั้งสองติดตามพยาน รวมทั้งนายวราเทพมาเบิกความในวันดังกล่าวด้วย

"ทนายแม้ว" ยันไม่ถอดใจ

ภายหลังนายคำนวณกล่าวยืนยันว่า การยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายความคดีนี้ ไม่ได้เป็นเพราะถอดใจ และไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ลูกความไม่เชื่อในกระบวนการยุติธรรม และเมื่อศาลไม่อนุญาตให้ถอนตัวก็ไม่หนักใจ เพราะในฐานะทนายความก็ยังมีหน้าที่ต้องทำให้ข้อเท็จจริงมาสู่ศาลมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

"การยื่นคำร้องเป็นสิทธิส่วนตัวของลูกความ เมื่อแต่งตั้งใครมาเป็นทนายความแล้วก็มีสิทธิที่จะถอนได้ แต่เมื่อศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตต้องทำตามคำสั่งศาล ซึ่งจะแจ้งเรื่องนี้ให้ลูกความทราบต่อไป" นายคำนวณกล่าว

นายเอนกกล่าวว่า ยังไม่ถอดใจ การดำเนินคดีก็ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริงและเอกสาร ซึ่งฝ่ายจำเลยได้เสนอศาลไปหมดแล้ว ส่วนที่ศาลไม่อนุญาตตามคำร้องของจำเลยในวันนี้ ในฐานะทนายความถือว่าทำหน้าที่ได้เท่าที่จะทำได้และดีที่สุดแล้ว ซึ่งพยานที่จะเตรียมเข้านำสืบในวันที่ 19 สิงหาคม ยังเหลืออีกประมาณ 7 ปาก อาทิ นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท. ส่วนนายวราเทพที่ครั้งแรกจำเลยไม่ติดใจที่จะนำตัวมาไต่สวน เพราะเห็นว่ามีข้อเท็จจริงเพียงพอแล้ว แต่เมื่อศาลมีคำสั่งให้ทนายความติดตามพยานมาเบิกความให้ครบถ้วน ทีมทนายความก็จะประชุมหารือกันอีกครั้ง และจะแถลงให้ศาลทราบในนัดหน้า

"การยืนคำร้องในวันนี้และศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ทนายจำเลยถอนตัว เพราะเห็นว่าเป็นการมุ่งประสงค์ให้ศาลหยุดการพิจารณาคดี ไม่เกี่ยวข้องว่าไม่มีทนายความคนใดทำผิดมรรยาท และไม่มีใครขัดขวางกระบวนการยุติธรรมทั้งสิ้น" นายเอนกกล่าว

Thursday, August 14, 2008

สตช.แจกจ่ายหมายจับ"ทักษิณ-พจมาน"

http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=173512&NewsType=1&Template=1




วันนี้ (14 ส.ค.) เมื่อเวลา 16.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กองทะเบียยนประวัติอาชญากร ได้ออกประกาศกองทะเบียนประวัติอาชญากร เรื่อง สืบจับผู้กระทำความผิด ฉบับที่ 353/2551 โดยแจกจ่ายไปยังสถานีตำรวจทั่วประเทศ พร้อมแจกให้กับสื่อมวลชนนำเผยแพร่ ซึ่งประกาศฉบับแรกเป็นหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิน ชินวัตร ระบุข้อหา เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินกิจการเป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติมาตรา 4 ,100 และ 122 และฉบับที่สองเป็นหมายจับ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ระบุข้อหา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินกิจการเป็นคู่สัญญา หรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐฯ และเป็นผู้สนับสนุนฯ,มาตรา 4,100 และ 122







ทั้งนี้ในประกาศได้ระบุรูปพรรณสัณฐานของบุคคลทั้งสองอย่างละเอียด พร้อมระบุวันเกิดเหตุคือวันที่ 11 ส.ค.2551 โดย พ.ต.ท.ทักษิณ มีอายุความ 15 ปี วันขาดอายุความคือ 12 สิงหาคม 2566 และ คุณหญิงพจมาน มีอายุความ 10 ปี วันขาดอายุความ 12 สิงหาคม 2561





นอกจากนี้ ท้ายประกาศยังระบุขอความร่วมมือ ให้ทุกหน่วยงานช่วยติดตามสืบจับ หากผู้ใดพบเห็น หรือทราบแหล่ง/สถานที่หลบซ่อนของผ้กระทำความผิดข้างต้น ให้รีบแจ้งพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ เพื่อจัดการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ลงประกาศ ณ วันที่ 14 สิงหาคม 2551 และลงชื่อ พันตำรวจเอก โสฬส พินิจศักดิ์ รองผู้บังคับการกองทะเบียนประวัติอาชญากร ปฏิบัติราชการแทน ผู้บังคับการกองทะเบียนประวัติอาชญากร.

Monday, August 11, 2008

ศาลฎีกาฯออกหมายจับ 'ทักษิณ-พจมาน' หนีรายงานตัว

http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=100231

วันนี้ (11 ส.ค.) ว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตัวแทนทีมทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ในคดีทุจริตจัดซื่อที่ย่านดินรัชดาฯ ได้เดินทางเข้ายื่นคำชี้แจงต่อศาลหลังฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการ เมืองหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมานไม่เดินทางมารายงานตัวต่อศาลตามกำหนด

ทั้งนี้ ตัวแทนทีมทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมานใช้เวลาในการยื่นคำชี้แจงต่อศาลประมาณ 5 นาที ก่อนจะเดินทางกลับไปโดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ

ผู้สื่อข่าวรายต่อว่า หลังจากศาลได้รับหนังสือชี้แจงจากตัวแทนนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานทำผิดสัญญาประกันและจงใจไม่เดินทางกลับประเทศไทยโดยขอลี้ภัยถือว่า ผิดสัญญาประกันจึงสั่งปรับเบี้ยประกัน โดยให้ธนาคารนำส่งเงินตามสัญญาประกันจำนวน 13 ล้านบาทต่อศาลภายใน 5 วัน นอกจากนั้น ยังได้มีคำสั่งให้ออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานมีผลทันที