Wednesday, July 30, 2008

ฟ้าผ่า!ตระกูลชินวัตร สั่งจำคุก 'พจมาน' 3 ปี

http://www.thairath.co.th/onlineheadnews.html?id=98932

ที่ศาลอาญา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยบุตรชายและบุตรสาว ได้เดินทางมาให้กำลังใจคุณหญิงพจมาน ภริยา ที่มาฟังคำพิพากษาคดีเลี่ยงภาษีหุ้นบริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)ที่ตกเป็นจำเลยพร้อมกับนายบรรณพจน์ ดามาพงษ์ และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน ท่ามกลางประชาชนนับพันคนที่เดินทางมาให้กำลังใจ
พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน มีสีหน้ายิ้มแย้ม และโบกมือทักทายกับทุกคน ทั้งนี้ ศาลได้ขอความร่วมมือกลุ่มผู้สนับสนุนทุกคนห้ามใช้ถ้อยคำหยาบคาย ยั่วยุ หรือก่อความวุ่นวายเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 500 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ศาลได้กล่าวก่อนการอ่านคำพิพากษาว่า เป็นที่น่าเสียใจว่า สถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันทำให้ประชาชนมีการแบ่งฝ่ายกันอย่างชัดเจน แต่ก็เป็นเรื่องที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต้องแก้ไข แต่เมื่อมีข้อพิพาทขึ้นสู่ศาล ศาลยุติธรรมซึ่งเป็นคนกลาง มีอำนาจชี้ขาด ขอให้ประชาชนวางใจได้ว่าศาลจะให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย แม้แต่คดีนี้ ศาลได้ประชุมปรึกษากันพิจารณาข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานจากสำนวน ไม่มีอคติ ไม่มีกระแสฝ่ายใดมากดดัน ผลของคำพิพากษาจะออกมาเป็นอย่างไร หากคู่ความไม่พอใจ สามารถใช้สิทธิ์อุทธรณ์หรือฎีกาได้ตามกฎหมาย
โดยคุณหญิงพจมาน เป็นจำเลยที่ 1 นายบรรณพจน์ จำเลยที่ 2 และนางกาญจนาภา จำเลยที่ 3 ซึ่งศาลมีคำพิพากษาว่า จำเลยทั้ง 3 มีความผิดตามประมวลรัษฎากร มาตรา 37(2) และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และจำเลยที่ 1 และที่ 2 มีความผิดตามประมวลรัษฎากร มาตรา 37(1) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำของจำเลยที่ 1 และที่ 2 มีความผิดหลายกรรมต่างกรรม ให้เรียงกระทงลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 57 ฐานร่วมกันโดยความเท็จ โดยฉ้อโกง หรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน หลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร จำคุกจำเลยทั้ง 3 คนละ 2 ปี ฐานโดยรู้อยู่แล้วหนีโดยจงใจ ร่วมกันแจ้งข้อความเท็จ หรือให้ถ้อยคำเท็จ หรือตอบคำถามด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ หรือนำพยานหลักฐานเท็จมาแสดง เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร จำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2 คนละ 1 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2 คนละ 3 ปี