Wednesday, October 10, 2012

ศาลออกหมายจับ "ทักษิณ" เบี้ยวนัดคดีกรุงไทยปล่อยกู้-จำหน่ายคดีออกสารบบชั่วคราว


วันที่ 11 ต.ค. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศาลโดย นายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา เจ้าของสำนวน คดีปล่อยกู้ธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมองค์คณะ รวม 9 คน ออกนั่งบัลลังก์เพื่อสอบคำให้การจำเลยคดี คดีหมายเลขดำ อม.3/2555 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ 1, นายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย และบริษัทในเครือของ บริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 27 ราย เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การ หรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502, ความผิด พ.ร.บ.การธนาคารพาณิชย์ พ.ศ.2505, ความผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และความผิด พ.ร.บ.บริษัท มหาชน จำกัด พ.ศ.2535 โดยจำเลยทั้งหมดมาศาล ยกเว้นอดีตนายกรัฐมนตรี

โดยองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาฯ ได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้พวกจำเลยที่มาศาลฟัง จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานทั้ง 2 ฝ่ายวันที่ 25 ม.ค.ศกหน้า เวลา 09.00 น. โดยให้คู่ความยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันนัด 14 วัน ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 ถือว่าได้รับทราบนัดโดยชอบแล้ว มีเหตุให้สงสัยว่าจำเลยจะหลบหนี จึงให้ออกหมายจับ และให้จำหน่ายคดีในส่วนของจำเลยที่ 1 ออกจากสารบบความชั่วคราว

สำหรับคดีนี้ เป็นการกล่าวหาว่า ผู้บริหารธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้สินเชื่อกลุ่ม บมจ.กฤษดามหานคร ที่มีสถานะอยู่ในกลุ่มลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคาร เนื่องจาก ผอ.ฝ่ายกลั่นกรองสินเชื่อธุรกิจนครหลวง เคยจัดอันดับความเสี่ยงของกลุ่มกฤษดามหานครในอันดับ 5 คือไม่สามารถอนุมัติสินเชื่อให้ได้ แต่ได้มีการอนุมัติสินเชื่อให้บริษัทในกลุ่มกฤษดามหานคร 3 กรณี คือ 1.การอนุมัติสินเชื่อให้บริษัท อาร์เค โปรเฟสชั่นนัล จำกัด จำนวนเงิน 500 ล้านบาท 2.การอนุมัติสินเชื่อให้บริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด วงเงิน 9,900 ล้านบาท (วงเงินไฟแนนซ์ 8,000 ล้านบาท วงเงินซื้อที่ดินเพิ่ม 500 ล้านบาท และวงเงินพัฒนาโครงการ 1,400 ล้านบาท) และ 3.การอนุมัติขายหุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพของ บมจ.กฤษดามหานคร ให้กับบริษัท แกรนด์ คอมพิวเตอร์คอมมูนิเคชั่น จำกัด จำนวนเงิน 1,185,735,380 บาท ถือว่าผู้เกี่ยวข้องมีพฤติการณ์ ร่วมกันหรือสนับสนุนการกระทำความผิดกรณีธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐ เป็นการกระทำโดยทุจริต เพื่อฟื้นฟูกิจการของ บมจ.กฤษดามหานคร โดยมิชอบ

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1349943823&grpid=02&catid=16&subcatid=1600

Sunday, July 15, 2012

ศาลจำคุกทนายดูไบโกงเงิน"ทักษิณ"

ศาลดูไบพิพากษาจำคุกทนายโกงเงินพตท.ทักษิณ ชินตวัตร 580 ล้านบาทจากการขายสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้เข้าบัญชีตัวเอง



เว็บไซต์เดอะเนชั่นแนลแห่งสหรับอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) รายงานเมื่อวันศุกร์ (13 ก.ค.) ว่า ศาลอาญาแห่งรัฐดูไบ พิพากษาจำคุกนาย คาเลด อัล-มูฮาอิรี หุ้นส่วนบริษัทกฏหมายแห่งหนึ่งในรัฐดูไบ เป็นเวลา 3 ปี ในข้อหายักยอกเงินจำนวน 341 ล้านเดอร์แฮม (ประมาณ 580 ล้านบาท) ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากบัญชีธนาคารในประเทศมอนเตเนโกรของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ใช้เก็บเงินที่ได้จากการขายกิจการสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ซิตี้ เมื่อปี 2552

อัยการดูไบ ระบุว่า นายอัล-มูฮาอิรี ได้ยักยอกเงินจำนวนดังกล่าวระหว่างการโอนเงินจากการขายสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ เข้าไปยังบัญชีธนาคารในมอนเตเนโกร แต่นายอัล-มูฮาอิรี ได้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีตัวเอง และ มีบันทึกแสดงให้เห็นว่า นักกฏหมายผู้นี้แนะนำให้พ.ต.ท.ทักษิณ เก็บเงินรายได้จากการขายสโมสรฯในบัญชีของบริษัทกฏหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกกดดันทางการเมือง แต่ต่อมาทนายหัวหมอรายนี้ ได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวเข้าไปในบัญชีของตนเอง

ในรายงานข่าว ระบุด้วยว่านายอัล-มูฮาอิรี ได้ใช้เงินที่ยักยอกจากพ.ต.ท.ทักษิณ ราว 339 ล้านบาทซื้อบ้านพักตากอากาศสุดหรูในเขต เอมิเรตส์ ฮิลล์ ซึ่งเป็นย่านที่พักของมหาเศรษฐีในยูเออี

นอกจากนั้น นายอัล-มูฮาอิรี ยังถูกกล่าวหาว่า ยักยอกเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวรุ่น โกลบอล เอ็กซ์อาร์เอส มูลค่า 176 ล้านเดอร์แฮม (ประมาณ 1,500 ล้านบาท) ของบริษัทข้ามชาติแห่งหนึ่ง ด้วยการปลอมลายเซ็นของผู้บริหารบริษัทดังกล่าว โดยนายอัล-มูฮาอิรี ได้ยื่นขอจดทะเบียนเครื่องบินลำดังกล่าวในชื่อ "เวิล์ด ไวท์ อินเวสท์เมนท์ คอร์เปอเรชั่น" และทำหลักฐานว่า เครื่องบินดังกล่าว เป็นของตนเอง