Wednesday, April 25, 2007

'บรรณวิทย์'ร้องคตส. ฟัน“ทักษิณ”โกงสุวรรณภูมิหมื่นล้าน

http://www.bangkokbiznews.com/2007/04/26/WW10_WW10_news.php?newsid=66128

26 เมษายน พ.ศ. 2550 14:15:00

“บรรณวิทย์-ประพันธ์”บุก คตส.สอบทุจริตอาคารที่พักผู้โดยสาร แฉ “ทักษิณ” สั่งแก้ไขสัญญา พร้อมมอบหลักฐานมัด “แม้ว” มีลายเซ็นสั่งบอร์ด ทำรัฐเสียหายให้กับรัฐกว่า 1 หมื่นล้านบาท


กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า เมื่อเวลา 09.30 น.พล.ร.อ. บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแก้ไขปัญหาท่าอากาศสุวรรณภูมิ พร้อม นายประพันธ์ คูณมี ประธานอนุกรรมการตรวจสอบสัญญาก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้ายื่นหนังสือต่อ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เพื่อขอให้ตรวจสอบการทุจริตการก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร และอาคารเทียบเครื่องบิน หลังตรวจพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น

ทั้งนี้ นายประพันธ์ กล่าวภายหลังเข้ายื่นหนังสือว่า ได้มีการหารือร่วม กับนายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการ คตส.พร้อมทั้งได้รายงานผลการตรวจสอบโครงการ โดยพบว่ารัฐบาลชุดที่ผ่านมาได้อนุมัติโครงการจัดซื้อจัดจ้างประมูลงานในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งมีความผิดตั้งแต่การประมูล การพิจารณาแก้ไขแบบ โดยรัฐบาลตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแก้ไขแบบเองโดยไม่ใช้อำนาจของกรรมการบอร์ด และนำแบบที่ได้ไปประมูล พร้อมสั่งให้บอร์ดทำสัญญาจ้างโดยที่ไม่มีอำนาจ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มบริษัทเอกชนที่ประมูลงานได้ จึงผิดทั้งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 หรือ กฎหมายฮั้ว และผิดที่ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้เกิดความเสียหายกว่า 10,000 ล้านบาท และที่สำคัญ วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง เป็นวันเดียวกับที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

นายประพันธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังพบว่า นายศรีสุข จันทรางศุ อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม และอดีตประธานคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด หรือ บทม. ยังมีเจตนาแก้ไขสัญญาที่อัยการตรวจแล้ว เพื่อลดความรับผิดให้ผู้รับเหมา เช่น การประกันภัย การรับผิดชอบต่อความชำรุดบกพร่อง เท่ากับลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้รับเหมา ทำให้รัฐไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ ที่สำคัญโครงการนี้ถือเป็นสัญญาหลักของโครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ

“สำหรับผู้ที่ต้องรับผิดชอบในโครงการนี้ ประกอบด้วย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และกรรมการบอร์ด ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะนายศรีสุข ที่เป็นคนขีดฆ่าสัญญาความผิดของบริษัทเอกชนทิ้ง หลังศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของบริษัท อิตาเลียนไทย โดยอนุกรรมการฯ ได้มอบหลักฐานทั้งหมดให้กับ คตส. แล้ว ซึ่งในเอกสารมีการลงนามของ พ.ต.ท. ทักษิณ สั่งให้บอร์ดไปจ้างบริษัทอิตาเลียนไทย เพียงบริษัทเดียว ทั้งๆ ที่ฝ่ายกฎหมายได้มีการทักท้วงแล้วว่าไม่ควรจะมีการแก้ไขสัญญาทำให้รัฐเสียหายแต่ไม่เป็นผล จนทำให้บอร์ดบางคนรับไม่ได้ถึงขั้นลาออก ซึ่งในขณะนั้นแม้แต่ พล.อ.มงคล อัมพรพิสิทธ์ ในฐานะบอร์ดก็ไม่เห็นด้วย ” นายประพันธ์ กล่าว

พล.ร.อ. บรรณวิทย์ กล่าวว่า สำหรับกรณีการเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของบริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่เป็นโมฆะนั้น ได้รับคำแนะนำจาก นายแก้วสรร ว่า ควรแยกคดีแพ่งกับอาญาออกจากกัน โดย คตส. เห็นว่าเรื่องนี้มีความผิดทางอาญาจริง และจะรับไว้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนคดีแพ่งควรให้ บริษัท การท่าอากาศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ทำเรื่องขอเลิกสัญญาไปกับกระทรวงคมนาคมได้เลย ซึ่งกระทรวงคมนาคมมีหน้าที่โดยตรงในทางแพ่ง ที่จะยกเลิกสัญญาและเรียกค่าปรับหรือค่าเสียหาย รวมถึงการทำสัญญาตรง ทั้งนี้ในฐานะเป็นประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการ หรือ บอร์ด ทอท. อยู่แล้ว จึงจะนำเรื่องนี้หารือกับบอร์ด เพื่อให้ดำเนินการตามที่ คตส. เสนอแนะ

ด้าน นายสัก กองแสงเรือง โฆษก คตส. และอนุกรรมการตรวจสอบกรณีการปล่อยกู้ให้กับประเทศพม่าของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยหรือ ธสน. เปิดเผยว่า ขณะนี้อนุกรรมการยังไม่ได้สรุปผลการตรวจสอบ เพราะอยู่ระหว่างการพิจารณาตรวจสอบวงเงินกู้ที่เพิ่มขึ้นอีก 1,000 ล้านบาท หลังพบว่าสัญญาสุดท้ายที่ทำร่วมกันวงเงิน 4,000 ล้านบาท ซึ่งกรอบเริ่มต้นอยู่ที่ 3,000 ล้านบาทว่าเพิ่มจากสาเหตุใดและอยู่ในหลักการเดิมที่เคยตกลงไว้หรือไม่ นอกจากนี้อนุกรรมการจะพิจารณาถึงความเชื่อมโยงกับกิจการโทรคมนาคมด้วยหรือไม่ เพราะไม่ได้อยู่ในกรอบแรกที่คุยกัน ส่วนจะมีการผลักดันเป็นพิเศษจากฝ่ายการเมืองในเรื่องกิจการโทรคมนาคมหรือไม่อนุกรรมการยังไม่ได้สรุป จึงไม่ขอให้ความเห็นเพราะอาจเกิดความเสียหาย

No comments: